อยู่เมืองกรุงเทพฯแสนวุ่นวาย ทั้งอากาศร้อน ฝุ่นควัน นั่งทำงานอยู่แต่หน้าจอคอมฯ ทริปนี้วิวเลยอยากชวนทุกคนให้เลิกมองจอแล้วออกไปมองวิวของธรรมชาติกันดีกว่าจ้า
กับ 9 จุดเที่ยว จ.สุราษฎร์ธานี จังหวัดที่ทำให้เราได้หนีจากความวุ่นวายที่แท้ทรู แถมสายตายังได้พักผ่อนไปกับความสวยงามของธรรมชาติวิวอลังการสุดๆไปเล้ย
จุดเช็คอินที่1 :: ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
หนีร้อนจากเมืองกรุงทั้งที มาถึงสุราษฎร์ฯปุ๊บ เราก็ขอมาหาความเย็นชื่นใจกันที่ ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด ค่ะ
ที่นี่ถือเป็นหนึ่ง Unseen ของ จ.สุราษฎร์ธานีเลยนะ บอกเลยว่าใครมาสุราษฎร์ฯแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด!
แน่ะว่าให้เลือกบินสายการบิน AirAsia ไฟล์ทเช้าสุดมาเลย มาถึงที่นี่ก็เปิดพอดี มาก่อนใครคนน้อยด้วยน๊า
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/PTSyot8LCJuMqjuy7
น้ำใสจริงแบบไม่จกตาจ้า และคือน้ำเย็นสบายมาก อยากแช่เล่นอยู่อย่างนี้ไม่อยากไปไหนเลย มันดีมากจริงแก
บ่อน้ำที่ผุดขึ้นมาที่เชิงเชาในป่าของ บ้านน้ำราด
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสมบูรณ์มากๆเลยค่ะ
จุดเช็คอินที่ 2 :: คลองสก แบมบูราฟ
จุดต่อไปเราก็ขอไปนั่งพักสายตาชมธรรมชาติชิลๆไปกับการล่องแพไม้ไผ่ไปตามลำน้ำคลองสกกันค่ะ
จะบอกว่าเป็นอะไรที่ชิลและเพลินมาก ระหว่างทางที่ล่องแพไปได้เห็นธรรมชาติ ทั้งต้นไม้และภูเขาที่เป็นฉากสวยงามสุดๆ นี่ขนาดตอนที่เราไปคือฝนพึ่งตกไปก่อนหน้า ทำให้น้ำขุ่นนะ แต่ความสวยงามของธรรมชาติคือไม่น้อยลงเลยค่ะ
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/Fh8CpNHGvoV8bTgm9
วิวอลังการงานสร้างตลอดทางเลยจ้า
สำหรับที่คลองสก แบมบูราฟ เค้าไม่ได้แค่พาล่องแพนะคะ ระหว่างล่องยังมีชาหรือกาแฟให้เรานั่งจิบไปชมธรรมชาติไป และหลังจากล่องแพเสร็จก็มีอาหารให้ทานกันแบบอิ่มๆไปเล้ย
ราคาหัวละ 450 บาทค่ะ (แนะนำเช็คราคาอัพเดทก่อนนะคะ)
ใครอยากไปติดต่อได้เลยที่เบอร์โทร 098-6958928
จุดเช็คอินที่ 3 :: Khaosok Boutique Camps
และนี่ก็คือที่พักของเราในคืนแรกจ้า!! “เขาสก บูติค แคมป์“
จะบอกว่านี่เป็นที่ที่ตอบโจทย์เรา ที่ต้องการความเงียบสงบและอยู่กับธรรมชาติมากๆ
รีสอร์ทจะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ท่ามกลางภูเขารอบล้อมเลย ฟินสุดไรสุด
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/Eft7XE85Knb5rZwn7
ห้องพักของเราในคืนนี้ เห็นแบบนี้แต่เป็นเต็นท์หรูติดแอร์นะเออ
หลับสบายท่ามกลางเสียงธรรมชาติสุดๆ
ความเงียบสงบของที่นี่ ทำให้เราได้หยุดแชทหน้าจอมือถือ แล้วมาคุยกับคนรอบข้างมากขึ้นด้วยน๊า
ที่รีสอร์ทยังมีคาเฟ่ ที่มีเครื่องดื่มและขนมอร่อยๆ นั่งกินไปชมวิวสวยๆไปด้วยแหละ
จุดเช็คอินที่ 4 :: เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา
และสำหรับเขื่อนเชี่ยวหลาน เราบอกเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิต ทุกคนควรได้มานะ ไม่อยากให้ใครต้องพลาดสถานที่ดีๆแบบนี้เลยจริงๆค่ะ มีธรรมชาติแวดล้อมไปด้วยเขาหินปูน และน้ำสีเขียวมรกต สวยงามอลังการมากจริงๆ และเป็นที่ที่มีทั้งน้ำ ภูเขา น้ำตก เดินป่า เข้าถ้ำ ครบ!
สำหรับจุดแรกที่เขื่อนเชี่ยวหลาน เราจะไปล่องเรือชมเขื่อนกันค่ะ
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/UhxsiS3H4jt8KVSt9
ถ้าใครได้ล่องเรือช่วงเช้าๆสายๆ ก็จะมีเมฆหมอกลอยละล่องให้เห็นแบบนี้ สบายตาสุดๆ
ธรรมชาติระหว่างทางคืออลังการสุด คือละสายตาไปไหนไม่ได้เลย แต่ละจุดคือดีไปหมด
และจุดไฮท์ไลท์ที่ทุกคนจะต้องได้มาถ่ายรูปก็คือ เขาสามเกลอ นั่นเองค่ะ เป็นแก๊งค์เขาหินปูนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยมากๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด
ชมเขื่อนกันแล้ว เราก็จะล่องเรือเพื่อไปยังจุดเดินเท้าไปเที่ยวถ้ำปะการังกัน ลุยโล้ดด
จุดเช็คอินที่ 5 :: ถ้ำปะการัง
หลังจากล่องเรือชมธรรมชาติแล้วเราจะต้องลงเดินป่าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ1.5 กิโลเมตรค่ะ เป็นทางเดินไม่เหนื่อยมากนะ เดินเรื่อยๆสบายๆเลย รึเปล่า?? ฮ่าๆๆ จากนั้นก็ต้องมาลงแพไม้ไผ่แบบนี้เพื่อไปยังถ้ำปะการังกันจ้า
ล่องแพไปถ้ำปะการังกันเล้ยย!
และนี่ก็คือ ถ้ำปะการัง ที่ถือเป็นถ้ำที่มีสภาพสมบูรณ์ มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามเหมือนปะการังในทะเลค่ะ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำปะการังนั่นเอง
โดยการเข้าไปชมถ้ำไกด์จะแจกไฟฉายให้ และคอยนำทางพร้อมทั้งอธิบายจุดต่างๆภายในถ้ำให้ด้วยค่ะ
จุดเช็คอินที่ 6 :: แพภูตะวัน
หลังจากชมเขื่อน เที่ยวถ้ำแล้ว ก็ได้เวลามาพักผ่อนเล่นน้ำกัน!!
และที่พักที่เราเลือกพักในเขื่อนกันในครั้งนี้ก็คือ “แพภูตะวัน” ค่ะ
เราชอบบริการของที่นี่มาก และอาหารก็อร่อยมากด้วย ที่สำคัญคือที่พักสะอาดมากค่ะ
สำหรับราคาแพ็คเกจ2 วัน 1 คืน ของที่นี่จะอยู่ที่ท่านละ 2,800 บาท
รวมอาหาร 3 มื้อ (ที่อร่อยเว่อร์ๆ) ,ล่องเรือชมเขื่อน, พาไปถ้ำปะการัง และ มีMorning Safari ชมสัตว์ยามเช้า
เปิดประตูหลังห้องนอนก็เจอวิวแบบนี้ ฟินแค่ไหนถามใจดู
พายเรือ เล่นน้ำ หน้าบ้านพักกันไปเล้ย น้ำใสมาก ฟินมากค่ะ
เล่นน้ำเย็นๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ
และที่พีคสุดๆสำหรับเขื่อนเชี่ยวหลานก็คือ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถนอนเล่นชมดาวได้สวยสุดๆไปเลยค่ะ ดาวเต็มท้องฟ้า อลังการดาวล้านดวงที่แท้ทรู
จุดเช็คอินที่ 7 :: สะพานแขวนเขาพัง ภูเขารูปหัวใจ
เห็นภูเขานั่นไหม? เป็นรูปหัวใจเล้ยย!
นั่นคือเขาเทพพิทักษ์ค่ะ หรือที่รู้จักกันในนามภูเขารูปหัวใจ โดยสะพานแขวนนี้จะอยู่ที่วัดเขาพัง สร้างข้ามคลองพระแสง เป็นอีกหนึ่งจุดที่มาถ่ายรูปเล่นสวยมากเลยค่ะ
จุดนี้จะอยู่ใกล้ๆกับท่าเรือเขื่อนเชี่ยวหลานเลยนะ ออกจากเขื่อนมาก็แวะได้เลย
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/kFe1fed28EgaSTiZ8
จุดเช็คอินที่ 8 :: ป้ายา หอยสด
มาถึงเมืองหอยใหญ่ทั้งที ก็ต้องได้กินหอยตัวใหญ่ๆ สดๆ ฟินๆ ซะหน่อย
ซึ่งที่ร้านป้ายาหอยสดเป็นหนึ่งในร้านที่ขายหอยนางรม และหอยอื่นๆที่ขึ้นชื่อเรื่องความสด และราคาถูกค่ะ
ที่สำคัญน้ำจิ้มแซ่บมากกก
ร้านอยู่ในตัวเมืองสุราษฎร์ฯเลยนะคะ ติดถนนใหญ่เลย หาไม่ยาก มีที่นั่งสั่งทานได้เลย
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/8FDYDWx2TZSBeAj57
หอยนางรมตัวใหญ่เว่อร์ ราคาแบบ 3 ตัวร้อยจ้าาา
นอกจากหอยนางรมก็มีหอยแครง หอยแมลงภู่ และมีกุ้งเผา ปลาเผาด้วยน๊า จัดหนักจัดเต็มไปเลยจ้า
จุดเช็คอินที่ 9 :: Minute Beach Café
และจุดเช็คอินสุดท้ายของทริปนี้ หลังจากอร่อยกับหอยสดๆกันแล้ว เราก็ขอมานั่งกินขนม จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ร้านบรรยากาศดีๆแบบริมทะเลกันก่อนกลับค่ะ
บอกเลยว่าเรากรี๊ดบรรยากาศร้านนี้มาก ร้านตั้งอยู่บนชายหาด น่ารักมากค่ะ
พิกัดตามไปเช็คอิน : https://goo.gl/maps/sc5mp5zrmYEhSePH6
บรรยากาศดีสุดๆ มาตอนเย็นๆคือดี
ที่ร้านจะมีทั้งอาหารคาว หวานเลยนะคะ เครื่องดื่มอร่อยชื่นใจด้วย
จบแล้ววว! เที่ยวสุราษฎร์ธานีครั้งนี้ทำให้เราได้พักเหนื่อยจากความวุ่นวายอย่างแท้จริงเลยค่ะ ได้พักสายตาจากหน้าจอมามองธรรมชาติสวยๆ ได้อยู่กับความเงียบสงบ
บอกเลยว่าได้รับพลังงานดีๆกลับไปลุยกับการทำงานได้เยอะสุดๆเล้ย ^^